วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556


เขาพระวิหาร


          คำตัดสินปราสาทเขาพระวิหาร


 เขาพระวิหาร เป็นบริเวณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนพื้นเมืองสมัยก่อน ในกษัตริย์ชัยวรมันที่ 2 ได้กำหนดเขตบริเวณนี้และเรียกชื่อว่า "ภวาลัย" ภายหลังปรากฏชื่อในจารึกภาษาสันสกฤตว่า "ศรีศิขรีศวร" หมายความว่า "ผู้เป็นใหญ่แห่งภูเขาอันประเสริฐ" ตั้งอยู่บนยอดเขาในเทือกเขาพนมดงรัก ตามแนวเส้นกั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา จากหลักฐานต่างๆ คาดว่าสร้างในปี พ.ศ.1432-1443 ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 เพื่อใช้เป็นสถานที่สักการะตามความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ โดยสมมติให้เปรียบเสมือน "เขาพระสุเมรุ" (ศูนย์กลางของจักรวาล) โดยการสร้างนั้นก็มีเหตุผลในการรวบรวมอำนาจและความเชื่อของคนในละแวกนั้นเข้าด้วยกัน เพราะในอดีตแถบนั้นมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่รวมกัน พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 จึงโปรดให้สร้างเขาพระวิหารขึ้น เพื่อเป็นจุดยึดเหนี่ยวและศูนย์รวมจิตใจของ ชาวบ้านซึ่งจะทำให้การปกครองง่ายขึ้นด้วย 



เมื่อเวลา 17.35 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงภายหลังการตัดสินของศาลโลก คดีปราสาทพระวิหารว่า   ทั้งสองฝ่าย คือไทยและกัมพูชาพอใจในการตัดสินของศาล   ซึ่งจากนี้ ทางไทยกับกัมพูชา ต้องหารือร่วมกันในการประชุม"คณะกรรมาธิการร่วม" หรือ JC (Joint Commission) อันเป็นกลไกร่วมระหว่างไทย และกัมพูชา


จากนั้น   นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก  ในฐานะตัวแทนไทย ในการดำเนินการทางกฎหมายฝ่ายไทย  ได้สรุปสาระคำพิพากษาที่ได้หารือ หลังศาลโลกได้พิจารณา  ว่า  

1.ศาลมีอำนาจพิจารณาตีความตามคำร้องกัมพูชา ในเรื่องการดูแลตัว ปราสาทพระวิหาร   

2. บริเวณใกล้เคียงปราสาทโดยรอบ ที่เรียกว่า ตัวปราสาทพระวิหาร  ให้ยึดตามคำตัดสินของศาลโลกในปี พ.ศ.2505   ไม่ได้มีแผนที่แนบ

3.  กัมพูชาไม่ได้รับตามคำร้องขอ กรณีเขตแดนพื้นที่ทับซ้อน   4.6 ตารางกิโลเมตร  และ พื้นที่บริเวณ ภูมะเขือ  ไม่ใช่ของกัมพูชา  

4.ศาลไม่ได้ตัดสินเรื่องเขตแดน  เว้นแต่ในพื้นที่เล็กๆ ที่กำลังมีการคำนวณกันอยู่   

5.ศาลไม่ได้ระบุ  ว่าแผนที่ แผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน  เป็นส่วนหนึ่งบนคำตัดสินที่ผูกพัน เมื่อ ปี พ.ศ. 2505 

และสุดท้าย ศาลแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันในการที่จะดูแลปราสาทพระวิหาร ในฐานะมรดกโลก

"เบื้องต้นขอเรียนเลยว่า กัมพูชาไม่ได้รับสิ่งที่มาขอศาล กัมพูชาไม่ได้รับ 4.6 ตร.กม. หรือ 4.5, 4.7 ใดใดก็ตาม กัมพูชาไม่ได้นะครับ พื้นที่ภูมะเขือกัมพูชาไม่ได้นะครับ ศาลไม่ได้ตัดสินเรื่องเขตแดน เว้นแต่ในบริเวณที่แคบมากๆ ศาลเน้นคำว่าพื้นที่เล็กอยู่มาก ขณะนี้พื้นที่นี้กำลังคำนวนอยู่นะครับ และที่สำคัญศาลไม่ได้ระบุว่าแผนที่ 1:200,000 นั้นนะเป็นส่วนหนึ่งของบนส่วนคำตัดสินในคำตัดสิน 2505 ที่ผูกพันนะครับ ผมคิดว่าอันนี้สำคัญมากๆนะครับ...ศาลแนะนำนะครับ ศาลแนะนำให้ทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมมือกันในการที่จะดูแลปราสาทในฐานะที่เป็นมรดกโลก ศาลแนะนำให้ร่วมมือกัน"นายวีรชัยกล่าว